บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) เปิดเผยว่า ตามที่ บริษัทฯ ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก และกรมธนารักษ์ เป็นคดีหมายเลขดำที่ 1746/2564 ต่อศาลปกครองกลาง ต่อมา ศาลปกครองกลางได้เรียกคณะกรรมการที่ราชพัสดุ เป็นผู้ถูกฟ้องคดีเพิ่มเติม กรณีคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนฯ ซึ่งแต่งตั้งโดยกรมธนรักษ์ มีคำสั่งยกเลิกการคัดเลือกเอกชน เพื่อบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก และออกประกาศพร้อมหนังสือเชิญชวนการคัดเลือกเอกชนฉบับใหม่ เป็นเหตุให้บริษัทฯ ได้รับความเสียหาย และเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.66 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้อง โดยมีกำหนดระยะเวลาในการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดภายใน 30 วันนับแต่วันที่รับทราบคำพิพากษา ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 27 ม.ค.67 นั้น
คณะกรรมการบริษัทฯ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า คำพิพากษาศาลปกครองกลางเป็นเหตุเป็นผล และเมื่อวิเคราะห์แนวทางอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองตามที่ฝ่ายบริหารและที่ปรึกษากฎหมายนำเสนอแล้ว เห็นว่ามีน้ำหนักที่จะห้กล้างคำพิพากษาของศาลปกครองกลางไม่เพียงพอ ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีความเสี่ยงที่จะไม่ชนะคดีในชั้นศาลปกครองสูงสุด ประกอบกับการอุทธรณ์จะใช้เวลาและทรัพยากรของบริษัทฯ อย่างมาก ในขณะที่บริษัทฯ มีธุรกิจและโครงการในอนาคต ซึ่งต้องมีความเกี่ยวข้องและได้รับการอนุญาตหรือความยินยอมจากหน่วยงานภาครัฐ บริษัทฯ จึงควรรักษาความสัมพันธ์อันดีกับหน่วยงานรัฐ โดยคำนึงถึงภาพลักษณ์ของบริษัทฯ ประกอบการพิจารณาด้วย คณะกรรมการบริษัทฯ จึงเห็นควรไม่ยื่นอุทธรณ์คดีต่อไป